Life in Brisbane Day 3: งาน QODE Conference วันแรก

Life in Brisbane Day 3: งาน QODE Conference วันแรก

ตื่นสาย วันนี้ตื่นสายเพราะแม้จะตื่นด้วยนาฬิกาปลุกแล้วก็กดทิ้ง แล้วก็หลับกันต่อทุกคนเพราะง่วงหนักมาก กว่าจะรู้ตัวก็เหลือเวลาราว 30 นาทีสำหรับอาบน้ำกินข้าวเช้าแล้วพุ่งไปงาน QODE Brisbane ที่เป็นงาน Conference ด้านเทคโนโลยี แต่ภารกิจวันนี้คือพี่เค้าต้องไป Pitch ช่วงเปิดงานที่เป็นช่วงแนะนำคนเข้าโครงการ Hot DesQ

ทำอะไรเสร็จก็กด Uber ไปกัน ไปถึงเลทเลยเวลาตารางงานไปเล็กน้อย ก็ขึ้นไปตรงโซนทะเบียนบอกชื่อรับบัตรเข้างานกันแล้วพุ่งไปที่เวทีที่จัดงาน

ไปถึงผมว่าเค้าเริ่มกันไปแล้วแหละ แต่โชคดีที่ทีมเราอยู่สุดท้าย เลยยังมีเวลาเหลือ แต่อีกมุมก็สังเกตว่าทีมงานเค้าไม่ได้ตามติดชีวิตคุณ เหมือนเป็นเรื่องความรับผิดชอบคุณเอง มาสายก็ไม่ได้ถามหา เข้าใจว่าอาจจะเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของฝรั่งเค้า

การ Pitch ผ่านไปได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร หลังจบช่วงก็มีแขกเข้างานที่สนใจมารุมถามทีมในโครงการ Hot DesQ กันจำนวนมากและคุยกันนานใช้ได้

โฉมหน้าคนที่มาโครงการ Hot DesQ

จบช่วงนี้คือหมดตารางงานวันนี้แล้ว แต่เพราะเราได้สิทธิ์ชมงาน QODE ทั้งวันนี้และวันรุ่งขึ้น (อังคารกับพุธ) ทำให้เราเดินดูบูธที่มาจัดแสดงกันเล็กน้อย

AR สอนการเชื่อมเหล็ก เก๋ดี
Self-driving car ของมหาวิทยาลัย QUT

พอไล่ดูบูธเสร็จคร่าวๆ ก็เดินออกไปหาที่นั่งหาอาการกินเสริมจากที่มื้อเช้ากินมาไม่ค่อยอิ่ม บวกกันหาที่ทำงานด้วย

เดินออกมาไม่ไกลจากที่จัดงานที่เป็น Brisbane Convention & Exhibition Centre ไปหน่อยนึงก็ไปเลือกนั่งร้านอาหารในโซนเยื้องๆ จาก South Bank มาหน่อย เค้าเรียกว่า Central Cafe ที่หน้าตาเหมือนศูนย์อาหาร แต่ค่อนข้างเปิดโล่ง เรียกว่ากลางแจ้ง มีร่มให้บ้างบางจุด กับมีหลังจากเล็กๆ ตามที่นั่งริมขอบ ได้ที่นั่งก็ตัดสินใจซื้อกาแฟคู่มัฟฟินมากิน

บริเวณรอบๆ นั้นจะมีนกอยู่เยอะมาก เป็นนกตัวใหญ่สีขาว จงอยยาวๆ ชื่อว่า Ibis พร้อมกับเห็นป้ายว่าห้ามให้อาหารนก Ibis เลยสงสัยว่าทำไมนกพันธุ์นี้มันอยุ่แถวนี้เยอะจัง เลยค้นดูแล้วพบว่าเป็นนกพื้นถิ่นแถวนี้ แต่ในเมืองดันมีเยอะด้วย แล้วก็ทำให้พบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับ Ibis อยู่บนเว็บไซต์สภาเมืองบริสเบน พร้อมกับระบุด้วยว่ามันสร้างความเดือดร้อนอะไรบ้าง แล้วสภาเมืองช่วยแก้ปัญหาอย่างไร

มุมหนึ่งที่คิดว่าน่าสนใจคือ Ibis มีฉายาว่า Bin Chicken เข้าใจว่าสาเหตุคงมาจากตัวพอๆ กับไก่ แล้วจงอยมันยาวทำให้หาของกินในถังขยะได้ ซึ่งนั้นก็เป็นปัญหาว่าถังขยะแบบบ้านๆ จะโดนนกพวกนี้ทำเละเทะหมด สภาเมืองก็เป็นผู้ออกแบนถังขยะรอบเมืองให้เป็นดีไซน์ที่ป้องกัน Ibis ออกมาเป็นรูปทรงที่เหมือนมีหมวกทำให้นกมันไปคุ้ยขยะไม่ได้

นั่งทำงานพักนึงก็ใกล้อาหารเที่ยง บวกกับนัดเจอคนที่จะโฮสท์ทีมตลอดช่วงหลายเดือนที่นี่มาเจอกัน เลยหาอาหารเทีย่งกินตรงนั้นเลย มาลงเอยกับเคบับ แต่เคบับที่นี่มันเป็นแค่สไตล์ของเนื้อ ที่เหลือจะเอาไปห่อ กินเปล่า หรือว่าใส่แป้งเบอร์เกอร์ก็ได้หมด นี่เลยสั่งแบบเบอร์เกอร์มา ร้านพวกนี้มักมีคอมโบถ้าซื้อพร้อมน้ำจะได้ลดราคาด้วย

ไอ้เราหิวๆ บวกกับอยากลองอาหารรสจัดเลยเอาซอส Hot Chilly มากิน พอได้มาปุ๊บก็พบว่าไซส์มันใหญ่มาก แป้งเบอร์เกอร์เทียบประมาณเกือบ 2 ฝ่ามือ กินไปก็อร่อยอยู่ ซอสก็เผ็ดใช้ได้ ไม่นึกว่าจะเป็นระดับทำเหงื่อออก ซัดไปจนหมดก็จุกอยู่ แล้วก็ต้องตามหาน้ำกิน ตะกี้ก็ดันเปรี้ยวไม่ยอมซื้อคอมโบมา เลยต้องไปจ่ายค่าน้ำแพงอีกรอบ (สไปรท์ไม่มีน้ำตาลอร่อยดี)

สักพักก็เจอกับคุณ May ที่เป็นหนึ่งในทีมของ Creative Enterprise Australia สังกัดใต้ Queensland University of Technology ที่จะเป็นผู้โฮสท์ทีมของเรา เค้าเป็นคนไทยที่โตในออสเตรเลีย คือภาษาแม่เป็นอังกฤษ เวลาพูดไทยก็จะไม่ชัดนัก แต่คุยไทยกันรู้เรื่อง

ระหว่างแวะร้านเครือข่ายมือถือก็เจอขาย Pixel ทุกร้านเลย

จากนั้นเค้าเลยพาไปจัดการทั้งเรื่องการหาซื้อ SIM ของออสเตรเลียสำหรับพี่ๆ เค้าจะได้มีเบอร์ของที่นี้ใช้และทำเรื่องเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ ให้เสร็จสรรพ พร้อมทั้งยังพาพวกเราไปซ์้อ go card ที่เป็นบัตรเติมเงินสำหรับนั่งรถโดยสารสาธารณะอีกด้วย ขึ้นได้ทั้งรถเมล์ รถไฟ และเรือในบริเวณนี้

พอจัดการซื้อของอะไรเสร็จก็แยกย้ายกัน ฝั่งเราก็แวะเข้าที่พัก ระหว่างทางเจอฝนเล็กน้อยก็แวะหลบฝนจนหยุดแล้วเดินต่อ ไปนั่งทำงานที่ห้องพักอีกพักใหญ่

เดินผ่าน City Hall ของบริรสเบน

ตกเย็นก็ออกไปเดิน Woolworths หาอาหารกิน แต่รอบนี้ตอนจ่ายเงินค้นพบว่ามีช่องสำหรับคนซื้อใส่ตะกร้ามาชิคๆ วางคิดตังเองได้เลย เครื่องรับทั้งเงินสดและบัตรเครดิต ขั้นตอนคือหยิบของมาสแกน วางอีกฝั่งให้ชั่งน้ำหนัก แล้วก็ทำไปจนครบแล้วกดจ่ายเงิน เลือกวิธีการจ่าย จ่ายเสร็จมีถามรับใบเสร็จหรือไม่ ก็แล้วแต่ต้องการได้เลย ถือว่าสะดวกดีเหมือนกัน

วันนี้กินซุชิ (อินาริ + มากิข้าวกล้อง)

เป็นอันจบวันที่ 3 ของที่นี่