Life in Brisbane Day 19: Coffee Anthology

Life in Brisbane Day 19: Coffee Anthology

วันนี้ก็ยังเดินไปทำงานเช่นเคย แต่วันนี้ตัดสินใจแวะร้านกาแฟในเมืองก่อนขึ้นบัสไปทำงาน เพราะหลังจากรู้ว่าวันหยุดที่จะถึงเป็นอีสเตอร์ แล้วร้านมันจะปิด ก็เลยมาลองก่อนซะเลย ไม่งั้นวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะกลับไทยแล้ว จะอดลองแล้ว

ภาพพาดหัวถ่ายจากใกล้ๆ หน้าบ้าน ช่วงเข้าก็มีเรือแล่นรับส่งคนข้ามฟากกัน แล้วก็เห็นเรืออื่นๆ จอดอยู่ด้วย ไม่แน่ใจว่าเค้าทำอะไรกัน

ร้าน Coffee Anthology อยู่ห่างจากป้ายรถบัสของ QUT ไปแค่ Block เดียวเท่านั้น ก่อนมาที่นี่สืบมาหน่อยแล้วว่าเป็นหนึ่งในร้านยอดนิยมของคนที่นี่

ลืมถ่ายหน้าร้านมา!

ไม่เป็นไร บรรยายเอา ช่วงที่ไปถึงคือราวๆ 9 โมงเช้า คนคึกคักแน่นร้าน เพราะร้านมีทั้งกาแฟและอาหารเช้าให้บริการ ส่วนของกาแฟเองก็เดาได้เลยว่าลูกค้าร้านนี้น่าจะเยอะจริง เพราะตอนเดินถึงหน้าร้าน ก็มีเครื่องเอสเพรสโซแบบ 3 หัว (ถ้านับไม่ผิด) อยู่แล้วเครื่องนึง แต่ถ้าเดินเข้าไปในร้านก็จะพบว่ามีเครื่องแบบเดียวกันนี้อีกเครื่องให้บริการข้างใน คิดเลขง่ายๆ คือสามารถเสิร์ฟพร้อมกันได้มากสุด 6 ช็อตในเวลาเดียวกัน ตีเลขง่ายๆ ก็คือ 6 แก้วพร้อมกัน ลูกค้าต้องเยอะขนาดไหนถึงต้องใช้ 2 เครื่องแบบนี้

สังเกตผ่านๆ เข้าใจว่าการตั้งเครื่อง 2 ตำแหน่งก็เพราะว่า

  • เครื่องด้านหน้าร้าน สำหรับลูกค้า Take-away ที่ผ่านมาเอากาแฟอย่างเดียว
  • เครื่องด้านใน สำหรับเสิร์ฟลูกค้าที่นั่งทานในร้าน

นอกจากเอสเพรสโซแล้วการแฟดริป/ฟิลเตอร์ก็มีให้บริการ พร้อมกันชอยส์เมล็ดอีก 3 ตัวให้เลือก นี่อยากลองฟิลเตอร์ก็เลยสั่งเลข 3 ไป เป็นเมล็ดจาก Santa Clara อธิบายรสชาติว่าเป็น เกาลัดคั่ว, มะลิ, นมข้น

ระหว่างรอเค้าทำก็ส่องของที่ขายในร้าน เมล็ดเยอะมาก แต่สุดท้ายไม่ได้ตัดสินใจซื้อที่นี่

ตำรา Coffee Atlas ของ James Hoffman นี่เหมือนไบเบิลประจำร้านกาแฟ ต้องมีประดับ

ได้กาแฟแล้วก็เดินออกไปป้ายรถบัสกัน – รสชาตินึกไม่ออกตามเค้าบรรยายแฮะ แต่อาจจะเพราะไม่ได้นั่งจิบสังเกตตามเท่าไร

ระหว่างนั้นเกิดคำถามกับพี่เค้าว่า ปกติรถบัสที่นี่เค้าไม่ให้เอาอาหารขึ้นนะ คิดว่าแก้วกาแฟนี่จะรอดมั้ย ก็เลยทดลอง! ด้วยการกินให้หมด แต่ถือแก้วขึ้นรถไป เค้าไม่ทักแฮะ และตลอดทางที่นั่งก็ไม่มีคนมองด้วย หรือเค้าอาจจะเฉยๆ กันหว่า ไม่รู้เหมือนกัน

ถึงออฟฟิศแล้วก็ได้เวลานั่งทำงาน

พอตกบ่ายก็หยิบเบอร์เกอร์ของพี่อีกคนที่ทำทิ้งไว้ แต่กลับไทยไปก่อนมากิน ได้มื้อกลางวันฟรี ฮ่าๆ และช่วงไล่เลี่ยกัน พี่อีกคนที่อยู่ด้วยเค้าต้องไปส่งเอกสารที่ไปรษณีย์ ก็เลยแยกตัวไปก่อน แล้วเจอกันอีกทีที่บ้านตอนเย็นเลย

หลังจากกินเสร็จก็เดินไปร้านขายยาร้านเดิม ไปรับของที่สั่งจาก ebay ไว้ นั่นก็คือเครื่องบดกาแฟมือ Porlex Mini ถ้าถามว่าที่ไทยก็มีขาย มาซื้อที่นี่ทำไม ก็เพราะว่าได้ราคาราว 1700 บาทน่ะสิ ที่นี่ไทยนี่ทะลุ 2000 ทั้งนั้น

เสร็จแล้วก็นั่งเข้าโซน ทำงานต่อ รู้ตัวอีกทีก็พบว่าออฟฟิศแม่มไม่เหลือใครแล้ว ทุกทีคือเหลือแค่บริษัทตัวเองที่อยู่ยันค่ำ แต่วันนี้พี่เค้าไม่อยู่ ก็เลยเหลือผมคนเดียว...

ถ้าถามว่ากริบขนาดไหนก็ลองดูคลิปนี้

ตกค่ำก็ได้เวลากลับบ้าน พี่เค้าฝากซื้อเนื้อสัตว์เข้าบ้านไปหน่อย เพราะเหมือนจะหมดบ้านแล้ว เลยแวะ Woolworths ใกล้ๆ QUT หยิบเนื้อไก่ชิ้นกลับบ้านไปหน่อย ในร้านก็มีรสราคาขนมรับอีสเตอร์เหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดมี Doritos ซองใหญ่ราคาราว A$1 นิดๆ ด้วย แต่คิดว่าคงไม่กินเลยไม่ซื้อ

ซื้อของเสร็จก็หิ้วถุงผ้าที่ใส่ของไปรอรสบัสกลับไป QUT Garden Point แล้วก็เดินเส้นทางคล้ายๆ วันก่อนเพื่อไปยังสะพานข้ามแม่น้ำ แต่วันนี้เดินคนเดียว อยากหยุดถ่ายรูปตรงไหนก็หยุด ฮ่าๆ

ดาวเต็มเบย
อันนี้ใต้สะพานที่เป็นสะพานรถข้าม

กลับมาถึงบ้านก็ลงมือเตรียมทำอาหาร มีไก่ มีขิง พี่เค้าเลยจัดไก่ผัดขิงเลย มีกับอีกอย่าง จำไม่ได้คืออะไร

ขิงที่นี่กลิ่นแรง ไม่เข้าปากแล้วไม่ขึ้นจมูกแบบในไทย แต่ก็ไม่แย่นะ กินอร่อยอยู่ พอกินเสร็จพี่เค้าก็ทำน้ำผลไม้ปั่นกิน แล้วนึกได้ว่าสตรอว์เบอร์รี่ที่ซื้อมาจาก Davies Market เมื่อเสาร์ที่ผ่านมามันอาจจะใกล้เสียแล้ว ก็เลยเอามาปั่นผสมกับแอปเปิลเลย ออกมากากเยอะมาก แต่ก็อร่อยดี หวานจากผลไม้ล้วนๆ เลย

เป็นอันจบวันเท่านี้