Life in Brisbane Day 17: ร่วมจัด Design Thinking workshop กับทีม QUT CEA

Life in Brisbane Day 17: ร่วมจัด Design Thinking workshop กับทีม QUT CEA

วันนี้คือวันที่ 16 เมษายน สำหรับช่วงเช้าของวันนั้นไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร ทำกิจวัตรตามปกติแล้วก็เดินทางไปยังออฟฟิศที่ QUT CEA เช่นเคย แต่ได้แวะมาลองกาแฟอีกร้านหนึ่ง มาร์กแนะนำมาเหมือนกันว่าดี ร้านก็อยู่ละแวกที่เราหาข้าวกลางวันกินนี่แหละ ชื่อว่า B+C Lab Cafe

ร้านเค้าค่อนข้างเรียบๆ มีขายทั้งกาแฟและชา แต่สังเกตหลายๆ อย่างในร้านไม่ว่าจะเมนูหรือว่าของที่ขาย ก็คิดว่าร้านน่าจะเน้นชามากกว่า สั่งได้สักพักก็มีคนอื่นๆ เข้ามาสั่งด้วย ร้านนี้น่าจะเป็นที่นิยมของคนแถวนี้พอสมควร

ขายชาเพียบเลย

หลังจากได้กาแฟ พวกเราก็ไปนั่งทำงานกันตามปกติ จนกลางวันก็ออกไปกินข้าวแล้วกลับมาทำงานกันต่อ แต่ช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันนี้ทีมเรากับทีม QUT CEA จะร่วมกันจัด Workshop กัน เอาจริงๆ ผมเองก็เพิ่งรู้เอาประมาณสายๆ ของวันนี้แหละ ด้วยความอยากรู้ก็เลยไปกันครบทีมเลย

พอใกล้ๆ ถึงเวลา พวกเราก็เดินไปยังห้องที่จัด Workshop โดยวันนี้จะเป็นการจัด Design Thinking workshop โดยเป็นเหมือนงานประจำของ QUT CEA อยู่แล้ว เพราะงานของพวกเค้าเองก็คือช่วง Incubate, Accelerate พวก Start-up พร้อมๆ กับเปิดสอนสกิลอย่างเช่นครั้งนี้ด้วย ซึ่งรอบนี้คนร่วม Workshop ก็เห็นว่าเป็นกลุ่มที่จ่ายเงินเข้าร่วมด้วย

สักพักพอถึงเวลา คนก็เข้าห้องมากันแน่นขนัดเลยทีเดียว แล้วคนของทีม QUT CEA ก็กล่าวเปิดพร้อมอธิบายต่างๆ และสำหรับโจทย์ Design Thinking ในวันนี้ก็คือ ปัญหาที่ TakeMeTour ประสพอยู่ ซึ่งจัดว่าเป็นการจัด Workshop ที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายเลย สำหรับคนที่มาเรียนรู้ ก็จะได้คิดแก้ปัญหาจากโจทย์จริงของบริษัท และฝั่งบริษัทเองก็พอจะได้ไอเดียกลับมานั่งทบทวนเผื่อนำมาปรับใช้จริงได้

คริส

คริส อีกคนหนึ่งในทีม QUT CEA มีตำแหน่งเป็น Entrepreneur in Residence ก็มาพูดเสริมให้กับผู้เข้าร่วม Workshop ว่าโจทย์ที่จะได้ลองแก้ปัญหานั้นเป็นปัญหาจริงๆ ที่เกิดขึ้นกับบริษัทที่ทำงานจริงๆ

ผู้เข้าร่วม Workshop นั้นถูกให้แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยราว 3-5 คน โดยแทบจะเรียกว่าสุ่ม เพราะทีม QUT CEA บอกว่าให้ลองคุยกับคนข้างๆ เลย ดูกันว่าใครพกของอะไรมาคล้ายกันมั้ย แล้วก็จับกลุ่มไปเลย ปรากฏว่าทุกคนหันไปคุยกันแล้วจับกลุ่มกันได้รวดเร็วมาก ทำเอาพวกเราอึ้งไปเหมือนกัน ปกติที่ไทยถ้าทำอะไรยังงี้นี่จะกินเวลามาก

หลังจากบรรยายลักษณะธุรกิจของบริษัทและปัญหาที่พบเจอให้กับผู้เข้าร่วมรับทราบแล้ว ก็เป็นช่วงที่ให้ทุกๆ คนระดมไอเดียคิดพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยอิงจากมุมมองนักท่องเที่ยวเองว่ามีพฤติกรรมเช่นไร แล้วสร้างออกมาเป็นเส้นทาง User's Journey

ความประทับใจนึงระหว่างที่ยืนดูเค้าระดมไอเดียกันคือ เค้าสามารถนึกแล้วเขียนลง Post-it ได้ค่อนข้างเร็วและเยอะมาก แป๊บๆ กระดาษแผ่นใหญ่ที่เดิมโล่งโจ้งก็เต็มไปด้วย Post-it

แต่ละคนที่มาเข้าร่วมงานนี้ น่าจะแทบไม่รู้จักกันมาก่อน เพราะมีความหลากหลายมาก Workshop นี้ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะนักศึกษา QUT เท่านั้น แต่เปิดให้กับคนภายนอกที่สนใจก็เข้าร่วมได้ด้วย

ระหว่างรัน Workshop อยู่ผมก็เจอกับคนมีอายุคนนึงเดินมาคุยด้วย เค้าบอกว่าเป็นอาจารย์ที่โรงเรียน (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น High School) อยู่แถวๆ Gold Coast แล้วเห็นว่ามี Workshop น่าสนใจเลยอยากมาร่วม เผื่อได้ไอเดียอะไรกลับไปสอนเด็กได้

หลังจากที่ User's Journey เสร็จแล้วทีม QUT CEA ก็แบ่งส่วน คนนึงมาบรรยายถึงสิ่งที่จะทำกันต่อว่ามีอะไรบ้าง และอีกส่วนก็จัดการกับ User's Journey เพื่อกลุ่มไอเดียที่คล้ายๆ กันไว้ด้วยกันเพื่อลดความสับสนเวลามาอ่าน

ตัว Workshop ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ มีการวางบทบาทในแต่ละกลุ่มสำหรับการคัดเลือกไอเดียต่างๆ มีโจทย์ให้คิด รวมก้อนไอเดียทั้งทำเป็นกลุ่มและทำของใครของมันแล้วเอามารวมกันทีหลัง จนมาถึงช่วงท้ายที่จะทำ Value Proposition Canvas ที่เอาไอเดียที่คิดมากลั่นกรองว่าจะทำออกมาเป็น Product/Service อะไรเพื่อแก้โจทย์หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไร

Value Proposition Canvas

ระหว่างที่แต่ละกลุ่มคิดโจทย์สำหรับการหา solution ของตัวเองกันอยู่ พวกเราเองในฐานะเจ้าของโจทย์ก็เดินไปรอบๆ คอยตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับบริการของเรา

พอครบเวลากำหนด ทีม QUT CEA ก็จะให้แต่ละกลุ่มอธิบายผลงานของตัวเอง กล่าวโดยสรุปถึงบริการที่คิดขึ้นมา มันเข้าไปตอบสนองลูกค้ากลุ่มไหนยังไง หรือทำให้ลูกค้ามาใช้งานได้อย่างไร ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับคืออะไร และทางบริษัทได้อะไร ซึ่งแต่ละทีมก็มีไอเดียที่น่าสนใจมาก บางอย่างก็เป็นสิ่งที่เราเคยคิด แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นประเด็นสำคัญ

ช่วงนำเสนอเป็นช่วงที่แต่ละทีมก็อย่างฟังทีมอื่นๆ ด้วยว่าคิดอะไรออกมาอย่างไร เพราะช่วงก่อนหน้านี้มักจะเป็นไอเดียที่รู้แค่ในทีมเดียวกัน ทำให้เห็นว่าทุกกลุ่มตั้งใจฟังกลุ่มที่บรรยายตลอดเวลาเลย

พอทุกกลุ่มบรรยายกันครบ ก็เข้าสู่พิธีปิดสั้นๆ และออกเป็นแนว Networking คุยประเด็นที่ติดใจกัน หรือหลายๆ คนก็มาคุยกับบริษัทในประเด็นต่างๆ รวมถึงมีความสนใจในแง่ Internship ก็มีเหมือนกัน (แต่ถึงตอนนี้ เข้าใจว่ายังไม่มีใครสมัครมานะ ฮ่าๆ) โดยรวมแล้วเป็น Workshop ที่ได้ทั้งไอเดีย และได้ทั้งพลังบวกในการทำงานมากๆ

ตัวอย่าง Value Proposition ที่ได้จากทีมนึง

จบงานตรงนี้พวกเราก็ขึ้นไปเก็บข้าวของบนออฟฟิศละไปหาอะไรกินแถวนั้น ลงเอยกับร้านเบอร์เกอร์ใกล้ๆ สั่งมากินละโคตรจุก ระหว่างกินไปก็คุยกันไปถึง Workshop เมื่อครู่ว่าคิดอะไรยังไงบ้าง รวมถึงว่าตั้งแต่ผมมาที่นี่ รู้สึกอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เปลี่ยนไปเยอะ เพียงแต่มันต้องค่อยๆ ตกผลึกออกมาว่าอะไรบ้าง

เป็นบทสนทนาที่ทำให้ติดหัว และคอยคิดอยู่เสมอว่า ณ สถานที่หนึ่งมันทำให้เราเปลี่ยนไปจากเดิมได้ เพราะอะไรบางอย่างที่ต่างออกไป เราอาจจะมีโอกาสหรืออิสระมากขึ้นหรือน้อยลงในแต่ละสถานที่ แนวคิดเราก็มักจะถูกตีกรอบตามไปด้วย

พอกินข้าวเสร็จเราก็แวะไป Woolworths ก่อนกลับ และงวดนี้เราได้เรียนรู้แล้วว่าควรมีบัตรสะสมแต้มติดไว้ เพราะกลุ่มพวกเรานี่เพิ่งกลุ่มแรกที่มาอยู่ที่นี่ และตลอดช่วง 9 เดือนที่จะมีคนผลัดไปมานี่ต้องได้แต้มเยอะพอเอาส่วนลดแน่ๆ

หลังจากนั้นก็กลับบ้านกัน เป็นวันแรกในรอบหลายวันมากๆ ที่กินข้าวนอกบ้านเป็นมื้อเย็น สามารถกลับบ้านไม่ต้องห่วงว่าต้องกลับไปทำอาหารถึงจะมีกิน แปลกดีเหมือนกัน ทำกินจนชินไปแล้ว ฮ่าๆ

จบวันเพียงเท่านี้แหละ