Life in Brisbane Day 11: Startup World Cup Australia
วันนี้เริ่มแบบปกติ แต่ตอนเย็นจะไปดูงานแข่ง Pitch กันภายใต้งาน Startup World Cup ที่จัดรอบรองชนะเลิศส่วนนึงที่ออสเตรเลีย กลางวันก็ไปทำงานปกติเฉกเช่นวันก่อน มีความแปลกใหม่เพิ่มเล็กน้อยเพราะวันก่อนเพิ่งได้หูฟังที่เพื่อนฝากซื้อผ่าน Amazon มาลองเล่น เป็นตัว WH-1000XM3 ของ Sony เดี๋ยวไว้จะมาเล่าว่าซื้อของผ่าน Amazon ที่ออสเตรเลียเป็นยังไงอีกที เพื่อนให้ลองเล่นก่อนได้ ก็เลยใส่ทำงานซะเลย (ฮา)
กลางวันวันนี้ตารางเวลาแปลกๆ กัน เลยออกมากินข้าวคนเดียว ไม่ได้ไปพร้อมกับพี่ๆ เค้า เลยไปลองร้านราเมงที่อยู่ด้านหลังร้านอาหารญี่ปุ่นร้านก่อนที่กินข้าวแกงกะหรี่หมูทอดไป ตอนแรกว่าจะเพิ่มเนื้อชาชูแปะหน้า แต่เค้าบอกว่าหมดก็เลยเอาวะ ราเมงทงคตสึเปล่าๆ ก็ได้ แล้วก็พบว่า
ไม่อร่อยว่ะ รสซุปไม่ข้น เส้นไม่ค่อยดี อารมณ์เหมือนเอาแพ็คสำเร็จรูปมาต้มให้กินยังงั้น เลยกลายเป็นเฟลไปซะงั้น (แต่หน้าตามันดูไม่เลวเลยนะ) ราคาที่จ่ายไปวันนี้ราวๆ A$7.5 มั้ง ถ้าเพิ่มอีกเหรียญก็จะได้แกงกะหรี่สุดอร่อยอีกร้านแล้วแท้ๆ
เดินกลับไปออฟฟิศทำงานต่อ คราวนี้มาคนเดียวเลยสังเกตว่ารีบๆ เดินเนี่ย มันเหนื่อยว่ะ ไอ้เส้นทางจากออฟฟิศไปโรงอาหารนี่มันเนินตลอดทางเลย ขากลับเลยลองหันหลังถ่ายภาพมาดู ก็พบว่าเนินชันชัดมาก 555
ตกเย็นก็มุ่งหน้าไปที่จัดงาน Startup World Cup กัน โดยสถานที่จัดงานก็คือ... Pub
ครับ เค้าเล่นมาใช้ผับโซน Fortitude Valley จัดงานเลย เข้างานมาก็เจอป้ายสปอนเซอร์ เลยยิ่งมั่นใจว่าไม่ได้มาผิดงาน เออ จัดมันแสงสีตระการตาในผับเลย พร้อมกับมีคูปองเครื่องดื่มฟรีแก้วนึงสำหรับคนลงทะเบียนมาด้วย
เดินเข้ามาตรงเวทีจัดงาน คนแน่นมาก รวมๆ เป็นร้อยกว่าแน่นอน พิธีกรก็กำลังพูดอธิบายตัวงานว่าเป็นมายังไง ใครสปอนเซอร์ กติกาการแข่งขัน และกรรมการในวันนี้ บอกนาทีที่จะให้ผู้เข้าแข่งขันพูดได้ และกรรมการมีเวลาถามเท่าไร ความเพลินในงานคือ เมื่อเวลาหมดแล้วจะไม่ใช้การตัดไมค์หรือตะโกนบนหมดเวลา แต่ทีมงานจะเริ่มปรบมือ แล้วให้คนในงานปรบมือตาม เสียงมันจะดังขึ้นเองจนผู้เข้าแข่งเข้าใจและหยุดพูดไปโดนปริยาย เป็นการทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมที่เพลินมาก
ยกผู้เข้าแข่งมาพูดถึงนิดนึงดังนี้
คุณมาร์ค ผู้เข้าร่วมโครงการ HotDesQ งวดก่อนและทำ Product Hip Money ออกมาทดสอบแล้ว
อันนี้ไอเดียดี... แต่มีแค่ไอเดียซะงั้น คือสร้างรายได้จากข้อมูลส่วนตัว เหมือนเจ้าของข้อมูลถือกุญแจสำหรับเข้าถึงไว้ แล้วให้คนอื่นยืมได้แต่ต้องจ่ายตังมาก่อน คล้ายๆ subscription แบบกลับด้าน
ส่วนต่อมาคือคุณธนาธร เหมือนเป็นคนเกาหลีมั้ง มาด้วยไอเดียส่งยาถึงบ้าน ไม่ต้องถือใบสั่งยาไปซื้อเอง เป็นไอเดียที่ขึ้นกับลักษณะทางสาธารณสุขของแต่ละประเทศเลย เพราะถ้าเป็นไทยนี่ใครๆ ก็เดินไปซื้อยาได้ โมเดลธรกิจนี้ไม่น่าจะรุ่งในไทยแน่ๆ
ส่วนคนสุดท้ายที่อยากพูดถึงคือบริการชื่อ travelat60 ที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวเจาะกลุ่มคนเกษียณ เพราะสำรวจมาแล้วว่าเป็นกลุ่มคนที่มีเงินมากและพร้อมใช้ และพบว่าโตเร็วมาก แข่งได้ทั้งกับ B2B และ B2C ในตลาดเลย (เข้าใจว่าตลาดออสเตรเลีย)
พองานใกล้เลิก เบื่อๆ กันแล้วเลยเดินปลีกตัวออกมา ไปช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านเพิ่ม
คราวนี้แวะไปที่ห้างใหม่อีกแล้ว ชื่อว่า Aldi เทียบกับเจ้าอื่นแล้วจะเหมือนราคาถูกสุด ไม่รู้ว่าคุณภาพต่ำกว่าด้วยมั้ย แต่สำหรับคนไทยไปดูมันก็โอเคทุกอย่าง (ฮา) ก็มีไปเจอเห็ดหั่นแพ็คโคตรถูก กับได้ขนมปัง Brioche ช็อกโกแลตชิปกลับบ้าน (เอามาเวฟนิดนึง กินเป็นมื้อเช้าอร่อยมาก)
ก็เป็นอันจบวันเท่านี้ครับ