รีวิวทริปโตเกียวต้นตุลาฯ 2018 EP 9: วันฟรี ตารางไม่มี มั่วๆ กันไปคนละทาง

วันนี้เป็นวันที่ 8 ของทริปนี้แล้ว เป็นวันก่อนวันเดินทางกลับที่ตั้งใจแล้วว่าเป็นวันอิสระ ไม่มีแผนใดๆ ทั้งสิ้น คือมาถูกใจอะไรที่ไหน อยากไปตามซ้ำหรือตามเก็บก็ไปเอาวันนี้ได้เลย อยู่มาตั้ง 7 วันแล้ว วันนี้ตัวใครตัวมันไปลุยเองโลด

แผนของผมกับเพื่อนก็เลยจะไปกันคนละทิศละทางเลย ตอนออกจากที่พักไล่เลี่ยกัน (จำแม่นๆ ไม่ได้ว่าใครก่อนใครหลัง) แล้วก็แยกไปกันคนละทางเลย เพื่อนมุ่งหน้าไป Asakusa ส่วนผมมุ่งไปยังตลาดปลา Tsukiji

เพื่อนผู้เดินทางถึงจุดหมายก่อนก็ไปตำร้าน Fuglen สาขา Asakusa อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นร้านน่าจะเพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน คนไม่เยอะ ผิดกับสาขาใกล้ๆ ชิบูย่าที่ไปมาวันก่อน แน่นจนที่นั่งไม่พอ

ขณะนั้นเอง ผมก็เดินตระเวณอยู่แถว Tsukiji แล้ว โดยเป้าหมายที่แวะมาโซนนี้ก็คือมาซื้อชา... ซื้อชาด้วย แล้วก็หาซูชิกินด้วย เผอิญได้ลายแทงร้านชามา เลยไปซื้อมาเป็นของฝาก ใครอยากตามรอยก็ไปที่พิกัดนี้เลยครับ จริงๆ แล้วร้านมีชาหลากหลายมาก ถ้ามีเวลาก็นั่งชิมได้เลย พนักงานดูแลลูกค้าดี

ร้านชายังไม่ค่อยเข้าโซน Tsukiji เท่าไร ต้องเดินไปอีกหน่อย ก็จะเริ่มเห็นร้านซูชิมากขึ้น ในใจคือมาหาซูชิกิน แต่ไม่มีร้านที่เล็งไว้เลยเดินไปเรื่อยๆ ก่อน หวังว่าจะเดินไปดูตลาดสดด้านใน แต่ปรากฏว่าจังหวะที่ผมไปนั้น เป็นวันสุดท้ายที่เค้ากำลังประกาศปิดโซนตลาดสด เพื่อที่จะย้ายไปที่ Toyosu แทน ผมก็เลยได้เป็นประจักษ์พยานการปิดโซนนั้นเลย แน่นอน แผนผมก็พังด้วย ฮ่าๆ

ฝั่งเพื่อนที่ได้กาแฟไปแล้วก็เตรียมหาข้าวกิน ตอนแรกเห็นว่าจะแวะกินข้าวหน้าปลาไหล Unatoto สาขา Asakusa แต่เห็นว่าคนแน่นมาก เลยตระเวณรอบๆ นั้นหาของรองท้องไปก่อน

ผมซึ่งเฟลจาก Tsukiji ก็เดินมุ่งหน้าข้ามฝากไปยังชิบูย่า เพื่อหวังไปกินร้านซูชิอันเลื่องชื่อนามว่า Midori Sushi แต่ไอ้เราก็ลืมตัวว่าวันนี้มันวันเสาร์ เจอมหาคิวอย่างยาวเลยครับ

ระบบคิวที่นี่เป็นบัตรคิวครับ กดรับบัตรแล้วจะไปไหนก็ได้ ค่อยกลับมาตอนใกล้ๆ ถึงคิว ซึ่งของผมนี่ขนาดมาคนเดียว นั่งแบบเคาน์เตอร์ก็ยังรอนานมาก ระหว่างที่รออยู่ ก็แชทคุยกับเพื่อนที่ไป Unatoto Ueno แล้วพบว่าก็ต้องรอคิวเหมือนกัน

กลางวันวันเสาร์นี่มันช่างโหดร้าย ของผมรออยู่เกือบชั่วโมงถึงได้เข้าไปนั่ง พอเข้าไปนั่งได้สักพัก เพื่อนก็ได้คิว กลายเป็นกินข้าวกลางวันเวลาใกลักันโดยบังเอิญเฉยเลย

เมนูที่ผมสั่งไปเหมือนจะเป็นเซตโอมาคาเสะ + ไข่หอยเม่นเพิ่ม แต่รู้สึกว่าไข่หอยเม่นอันนี้คาวมาก ตอนแรกจะสั่งตัวพรีเมียม แต่หมด เลยได้แบบนี้มา รวมๆ แล้วอร่อย ปลาไหล (Anago) ยาวไป กินยาก แต่พอกินจะหมดก็พบว่า อิ่มเกินไป วันหลังไม่สั่งปริมาณนี้แล้ว ยอมแพ้

ฝั่งเพื่อนก็ได้ข้าวหน้าปลาไหลแล้ว เข้าใจว่าฝั่งเพื่อนจะได้อาหารและได้กินรวดเร็วกว่าฝั่งผม เพราะไม่นานนักก็ไปตะลุย Ueno Park ต่อแล้ว ส่วนผมยังนั่งยัดซูชิอยู่

เหมือนวันนั้นที่ Ueno Park จะมีเทศกาลเหล่าบ๊วยอยู่

ฝั่งผมที่กินเสร็จแล้วก็เดินทางไป Ikebukuro ไปดู Donki หวังซื้อของฝาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ไป Asakusa ทั้งๆ ที่ใกล้ที่พักกว่าอีก จำไม่ได้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่

พอออกจากสถานีก็พบว่าเค้ามีจัดงานอยู่ใกล้ๆ เป็นเทศกาลเต้น Yosakoi ไม่ได้ยืนดูนานนัก แต่คนมาดูกันเยอะมาก ทีมคนแสดงก็มาเป็นทีมเลยทีเดียว ขอบคุณ Hanayamata ที่ทำให้รู้จัก Yosakoi

จากนั้นถึงเดินไปเข้าเขาวงกต Donki ใช้เวลาอยู่นานมาก ของซื้อเยอะ ของคนฝากก็หาไม่เจอ 555

กลับไปที่ทางเพื่อน เดิน Ueno จบแล้วก็ไหลไปเก็บตกบรรยากาศ Akihabara

ฝั่งผมที่ช้อปของฝากเสร็จแล้วก็กลับไปสถานี Oshiage แล้วไปเดินเล่นในห้าง Solamachi ข้างใน มีแวะไปซื้อกาแฟ Tully's ฝากคนรู้จักด้วย

บริเวณดาดฟ้าของห้างเห็นมีจัดงานอะไรด้วย แต่ไม่ได้เดินเข้าไปสำรวจ

จากนั้นผมก็ไปละลายทรัพย์ที่ Pokemon Center สาขาสกายทรี

เสียตังไปเยอะพอควร เพราะซื้อฝากที่บ้าน 5555

ช้อปเสร็จก็เตรียมกลับที่พักละ วางแผนกับเพื่อนไว้แล้วว่าจะเคลียร์โซเมงที่ซื้อมาวันก่อนกัน แล้วก็จัดการหาของเสริมเข้าไป โดยแวะซื้อของทอดร้านเนื้อตรงซอยทางเดินเข้าที่พัก ผมก็ฝากเพื่อซื้อเผื่อ ราคาค่อนข้างถูก ผมได้แฮมเบิร์กทอดชิ้นละราวๆ 30-40 บาทเองมั้ง อันนี้ลายแทง เหมาะกับคนไปพักแถวนั้น

ระหว่างเดินเล่นในห้าง Solamachi ก่อนกลับก็เจอร้านน่าสนใจ เช่น ร้านขายโมเดลอาหาร

แล้วก็ร้านรวมผลิตภัณฑ์หลายอย่างจาก Kaldi ที่ขายกาแฟ ไม่ทันได้ดูว่ามีอะไรบ้าง แต่น่าจะมีเมล็ดกาแฟด้วย

บรรยากาศข้างนอกตอนเดินกลับที่พัก

จากนั้นก็เดินกลับไปทำอาหารกินที่บ้าน ตอนนั้นน่าจะราวๆ ทุ่มนึง

จำแม่นว่ากินเส้นไม่หมด ลวกมาเยอะไป 5555

ก่อนจะจบบล็อกนี้ (ที่เนื้อหาน้อยมาก มีแต่ภาพ) ก็มีภาพที่น่าสนใจให้ดูครับ คือภาพนี้

จังหวะที่ผมไปคือหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดการปัญหาบ้านเช่ากับตระกูล AirBnB เสร็จสรรพแล้ว ทำให้บ้านเช่ารายวันจะมีการลงทะเบียนกับรัฐ แล้วบ้านที่เราไปอยู่ก็จะมีเอกสารดังนี้แปะอยู่หน้าประตูห้อง นัยนึงก็คงเป็นการบอกว่าเป็นที่พักถูกกฎหมาย อีกนัยหนึ่งก็อาจจะเป็นการสื้อสารถึงผู้ร่วมอาศัยในตึกเดียวกันด้วย

สำหรับทริปนี้เหลือแค่วันกลับแล้วครับ เนื้อหาคงมีไม่มากนัก แต่ก็จะมาเขียนเก็บให้ครบแน่นอน