Life in Brisbane Day 9-10: Optimize การไปทำงาน

Day 9

วันนี้จัดว่าเป็นวันแรกที่เดินทางไปทำงานจากบ้านใหม่ ซึ่งพอเปลี่ยนที่อยู่ปุ๊บ ป้ายรถบัสก็เอาซะอยู่ห่างไกลเลยทีเดียว ระยะทางเดินจากบ้านไปยังป้ายรถที่สถานี Mater Hill Bus Station อยู่ห่างจากบ้านไปราวๆ 900 เมตร (มารู้ทีหลังว่ามีใกล้กว่าหน่อยนึงอยู่ป้ายนึง) เลยได้เดินออกกำลังตากแดดกันแต่เช้าเลยทีเดียว เรียกเหงื่อได้เยอะอยู่ (ภาพพาดหัวคือระหว่างทางเดินไป)

พอได้รถก็นั่งไป อ่านข้อมูลตามกูเกิลแล้วบอกว่าต้องเปลี่ยนรถที่ Normanby station แล้วโบกเรียกอีกสายไปลงป้ายใกล้ๆ ที่ทำงานคือป้าย Kelvin Grove Rd. at Normanby, stop 11 แล้วเดินข้ามถนนเข้าบริเวณที่ทำงานอีกที เรียกว่าผจญภัยกันแต่เช้า

ป้ายรถบัสเค้าตามสถานีใหญ่จะมีให้อ่านเต็มตาเลย

วันนี้ก็ยังคงเป็นอีกวันที่มาทำงานโดยยังไม่มีบัตรประจำตัวใช้ ก็ต้องอาศัยให้คนอื่นเปิดประตูให้เหมือนเดิม แล้วก็เริ่มทำงานตามรอบปกติไป หลังจากผ่านอีเวนท์ใหญ่ๆ มาจากสัปดาห์ก่อน ตอนนี้เลยเข้าสู่ช่วงการทำงานออฟฟิศปกติ

พอกลางวัน ปัญหาใหญ่ก็ยังอยู่เพราะไม่รู้จะกินอะไรร้านไหนดี คือแถวที่ทำงานของกินมันก็เยอะแหละ แต่ว่ายังใหม่อยู่ ไม่รู้ว่าร้านไหนดี ร้านไหนเด็ด ไปๆ มาๆ เลยมาลงเอยที่เข้า Subway สั่งเป็นแซนด์วิชไส้เนื้อมากิน

หลายๆ คนที่เคยสัมผัสการสั่ง Subway มาก่อน แม้จะในไทย ก็น่าจะรู้ดีว่าขั้นตอนมันเยอะมาก ที่นี่ก็เช่นกัน และยากกว่าเพราะเราไม่คุ้นคำที่เค้าใช้ สเตปการสั่ง (เท่าที่ระลึกได้) ก็มีดังนี้

  1. เลือกขนาดขนมปังระหว่าง 6 นิ้ว (ครึ่งนึง) หรือ 12 นิ้ว (เต็มขนาด)
  2. ขนมปังแบบไหน มีทั้ง ปกติ (White), ธัญพืช (Grain), Gluten Free เปิดเว็บนับตามแล้วมีร่วม 6 แบบ ต่างจากไทยลิบลับ
  3. เลือกไส้ อันนี้ง่ายหน่อยเพราะส่วนใหญ่มีบนเมนู ผักก็จิ้มๆ ชี้ๆ ได้ หลายตัวเราก็คุ้นชื่อมันอยู่แล้ว
  4. มีให้เลือกชีสที่จะใส่ ค่อนข้างหลากหลาย คนไทยอย่างเรานึกไม่ออกก็เอาเชดด้าไป
  5. เลือกว่าจะอบมั้ย ถ้าอบก็จะได้อุ่นๆ ชีสเยิ้มๆ อร่อยมาก
  6. อบเสร็จก็จะมีให้เลือกซอสที่จะใส่ ก็หลากหลายตามสไตล์แซนด์วิชสเปรด
  7. เลือกใส่เกลือหรือพริกไทยเพิ่มได้

รวมๆ แล้วให้ระดับว่ายากกว่าสั่งในไทยเท่าตัว และเป็นอีกด่านที่คนไปต่างประเทศน่าลองดู เปิดประสบการณ์ดีจริงๆ

คง culture การคุยอัพเดตงานกับทีมที่ไทย

ตกบ่ายๆ เย็นๆ ในทีมก็เริ่มคิดว่า การนั่งรถบัสนี่มันดูลำบากแฮะ ลองหาทางเลือกอื่นกันดีกว่า เลยได้ค้นพบกับบริการเรียกรถทั้งหลายในออสเตรเลีย โดยนอกจาก Uber ที่คุ้นเคยแล้วก็จะมี Ola ที่เข้าใจว่าเพิ่งมีให้บริการแค่ไม่กี่ประเทศ เช่น อินเดีย กับที่ออสเตรเลีย แล้วก็ยังมีแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Black & White อีกด้วย แต่แอปดูโบราณมาก

นั่งดูสักพักเลยเลือกเอา Ola มาใช้กัน แล้วก็หมุน Referral code กันเพลินเลยทีเดียว

ตอนเลิกงาน ตัดสินใจไปห้าง ตอนแรกพี่เค้าจะไปส่องราคาจักรยาน เลยไปเจอห้างนึงที่คลับคล้ายละม้ายใกล้กับ Lotus บ้านเราใช้ชื่อว่า K Mart อยู่ในย่านที่เรียกว่า Toowong เลยจัดรถนั่งไปกันหลังเลิกงาน

ขับออกมาไกลพอประมาณ และเมื่อใกล้ถึงที่ก็เห็นว่ารอบข้างนั้นร้านอาหารเยอะมาก และได้บรรยากาศเอเชียสุดๆ เหมือนเป็นอีกย่านที่คนเอเชียอยู่กันเยอะ ร้านอาหารสไตล์ชาบูหรือหม้อไฟก็มีให้เห็น แต่ภารกิจหลักคือมาช้อปของกลับเข้าบ้านกัน

K Mart อยู่ในโซนอาคารที่เรียกว่า Toowong Village อีกที อารมณ์เหมือนห้างสรรพสินค้าเลย มีหลายๆ ชั้น น่าจะราว 4-5 ชั้นมั้ง ผ่านล่างๆ ก็เจอร้านขายผักผลไม้ที่ของเยอะอยู่ แต่ไม่ได้ซื้อ ดูอย่างเดียว แล้วก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อเข้าไป K Mart

เดินใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ก็ได้ข้าวของเครื่องใช้กลับบ้านเยอะพอประมาณ บวกกับเตาไฟฟ้ามาวางแผนต้มชาบูกินกันที่บ้านด้วย หลังจากช้อปเสร็จก็มาเรียกรถกลับบ้านกัน

Day 10

วันนี้เป็นวันที่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจริงๆ เข้าออฟฟิศ นั่งทำงาน กินข้าว กลับบ้าน หรือจริงๆ อาจจะมีเหตุการณ์บ้าง แต่ไมไ่ด้ถ่ายภาพบันทึกไว้ ก็ลืมไปแล้ว ฮ่าๆ

มื้อเย็นกินข้าวผัดที่บ้าน

เอาเป็นว่าจบเท่านี้ จะทยอยมาเขียนต่ออีกที ตามภาพที่ถ่ายไว้ และเหตุการณ์ที่นึกออก