Life in Brisbane Day 16: ลองบริการบัสมหาลัย และไปร่วม ReactBris Meetup

เข้าสู่วันจันทร์ วันทำงานอีกอีกครั้งนึง เช้านี้ต่างจากเดิมนิดหน่อยที่พี่ๆ เค้ามีนัดเข้าไปคุยที่ QUT Garden Point ก็เลยต้องแยกไปเข้าออฟฟิศก่อน แต่ว่าเรามีบัตรมหาวิทยาลัยแล้ว เลยใช้โอกาสนี้เดินทางไปด้วยรสบัสรับส่งระหว่างแคมปัสเลยละกัน

การเดินทางวันนี้เลยไม่มี Ola เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะพวกเราออกจากบ้านแล้วเดินกันยาวๆ จากบ้านไปยังสะพาน Goodwill ที่เป็นสะพานคนข้ามแม่น้ำบริสเบน ก็จะเห็นว่าคนเยอะมาก คือเป็นเส้นทางเดินประจำของคนที่นี่เค้า ฝั่งซ้ายขวาบนสะพานจะบอกว่าเป็นพื้นที่สำหรับเดิน และกลางสะพานจะเว้นที่ให้สำหรับคนปั่นจักรยาน หรือใครใช้ LIME Scooter ก็มาใช้ได้

บนสะพานตอนเช้า แดดจะแรงมาก ร้อน แต่ยังมีเงาของโครงสร้างสะพานที่สร้างไว้อยู่ ทำให้มีพื้นที่หลบแดดได้ เดินมาถึงอีกฝั่งก็จะถึง QUT Garden Point เลย จึงเดินแยกกันตรงนั้น

เอาจริงๆ คือยังไม่มีใครรู้ว่าขึ้นบัสตรงไหนด้วยซ้ำ อ่านมาฟังมา แต่ยังไม่เคยลอง นี่เลยกลายเป็นหนูทดลองคนแรกไป เปิดอ่านบนเว็บของ QUT เค้าบอกว่าให้ไปที่ป้าย Alice Street 95A ก็เลยเดินตาม Google Maps ไป อ้อมข้างมหาลัยไปเรื่อยแล้วก็พบว่าเป็นทางเดินขึ้นเนินชันเอาเรื่อง (มารู้ทีหลังว่าเดินลัดในมหาลัยได้เลย และสบายกว่า)

มาถึงป้ายเลยถ่ายเก็บไว้เพื่อจดไว้ในกลุ่มของบริษัท จะได้จำได้

ตรงข้ามเจอรถโฆษณาเอาตู้ขายของไปตั้งออฟฟิศฟรี เข้าใจว่าตั้งฟรี แต่น่าจะทำเงินจากการเติมของ/เอาของมาใส่ และอาจจะมีคอมมิชชันจากแบรนด์สินค้า

นั่งบัสได้แป๊บๆ น่าจะราว 3 นาทีก็มาถึง QUT Kelvin Grove แล้ว ไว้กว่าตูเดินจากบ้านมารอรถอีก (20 กว่านาทีได้) ด้วยความที่รถมันไม่ได้จอดหน้าออฟฟิศ ต้องเดินลงเนินมาอีกหน่อย เลยถือโอกาสแวะร้านกาแฟที่มาร์กแนะนำมาวันก่อนนู้นซะเลย ชื่อร้านคือ Menagerie

เห็นมีฟิลเตอร์ เลยจัดฟิลเตอร์มาแก้วนึง จำไม่ได้แล้วว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ไหน สังเกตว่ารสกาแฟฟิลเตอร์ที่นี่จะอ่อนๆ คล้ายสไตล์ร้าน Specialty Coffee ที่ญี่ปุ่น

แก้วที่นี่นิยมซ้อนให้ เพราะกาแฟทำกันร้อนชิบหาย ร้อนแบบมึงจะร้อนไปไหน ซ้อนแก้วแล้วก็ยังร้อน ถือลำบากมาก

หลังจากนั้นก็เข้าออฟฟิศไปนั่งทำงานยาวๆ แวะออกมากินข้าวตอนกลางวัน แล้วก็กลับมาทำงานต่อ จนราวๆ 5 โมงเย็นก็เตรียมตัวออกไป เพราะวันนี้มีงาน Meetup ของสาย Developer คืองาน ReactBris ที่คอนเซปท์ครอบคลุมตั้งแต่ React.js ไปจนถึง Web Technology รวมๆ ด้วย และจากที่สืบมา มันคืองานที่เกี่ยวข้องกับตัวเองที่สุดและจัดในช่วงที่อยู่ที่นี่ เลยไม่อยากพลาด ไหนๆ ก็มาถึงต่างประเทศแล้ว

ตัวงานจัดที่ The Precinct ที่คุ้นเคยของเรา เพราะไปมาตั้งแต่วันแรกๆ ที่เหยียบบริสเบน งาน HotDesQ ก็จัดที่ตรงนั้น ต่างจากเดิมหน่อยก็คือเริ่มเดินทางจาก QUT Kelvin Grove ตอนราว 5 โมงกว่าก็เลยเก็บของออกมารอรสบัส เพื่อไป Roma Street station แล้วต่อรถไฟไป Fortitude Valley

ด้วยความที่ Go Card มันใช้ได้ทั้งรถบัสและรถไฟ ก็เลยเลือกทางนี้ เพราะเดินน้อยสุด (มีอีกทางเลือกคือบัสแล้วเดินไปต่อบัสอีกสายแล้วลงเดินต่อ)

พอมาถึง The Precinct ก็เจอคนทักถามว่ามางาน Meetup ใช่มั้ย เค้าถามเพราะสถานที่จัดต้องขึ้นลิฟต์ไปแล้วต้องแตะบัตรที่ลิฟต์ พอขึ้นไป มันเป็นโซนของ River City Labs ซึ่งก็คืออ Co-working space ใน The Precinct นั่นแหละ

พอเดินเข้าประตูห้องจัดงานไปปุ๊บ ข้างในมีคนอยู่พอประมาณ กระดกเบียร์และจับกลุ่มคุยกันอยู่ ชั่วครู่เดียวก้มีคนดิ่งมาทักทาย แนะนำตัว (โทษที จำชื่อไม่ได้) แล้วก็บอกว่าเค้าคือคนที่เป็น Organizer จัดงานรอบนี้เอง ...จัดว่าแปลกใหม่ดี เพราะที่ไทยผมไม่เคยเจออะไรทำนองนี้มาก่อน อันนี้คือเค้าเสนอตัวเอง เข้ามาทักทายเอง มันทำให้คนหน้าใหม่ที่เพิ่งมางานรู้สึกสบายใจขึ้น รู้สึกมีคนสนใจแม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าแปลกตา

มองรอบตัว มีแต่เบียร์ เลยกะว่าไม่เอาละกัน ฮา จากนั้นเดินหามุมหน่อย ก่อนที่จะมีเริ่มมีคนเข้ามาทัก มาคุยด้วย ณ จุดนั้นคือมึนๆ งงๆ ไม่กล้าทักคนอื่นก่อน แต่คนอื่นมาทักก็ดี ก็ได้คุย พบว่าหลายคนก็เป็นคนที่เรียนอยู่บ้าง หรือทำงานบ้างแต่ไม่ได้อยู่ในวงการโดยตรง

สักพักงานก็เริ่ม ที่นี่จัดงานแปลกดี เข้าใจว่าเพราะอยากให้คนคุยกัน Networking กันเยอะๆ เลยให้คุยก่อนงานเริ่ม ตามด้วย Talk หนึ่งเรื่อง แล้วพักกินพิซซ่ากัน (ได้คุยกันอีก) ก่อนที่จะเริ่ม Talk ที่เหลือ

มาทราบทีหลังว่าหนึ่งในสปอนเซอร์ของงานก็เป็นทีม Recruiter ที่มาสำรวจคนร่วมงานด้วย (เพราะเค้ามาทัก) เลยเดาว่ามัน Win-Win ที่จัดงานให้เหล่า Dev มาสุมหัว รวมตัวกัน ขณะเดียวกัน Recruiter ก็หาคนส่งให้บริษัทไปด้วยเลย และเผลอๆ เหล่าคนที่เพิ่งเข้าวงการก็อาจจะได้ประโยชน์จาก Recruiter ไปด้วย

พิซซ่าอร่อยดี แถมเค้าใส่ใจเลือกแบบ Gluten-free, Vegetarian มาครบเลย

ระหว่างรอรถ

จากนั้นพองานเลิก ก็กลับ ขากลับก็เดินจาก The Precinct ไปป้ายรถบัส หาสายที่กลับบ้านได้ เพราะวันนี้ขึ้นรถเยอะแล้ว น่าจะถึงแคปราคาของวัน ไม่อยากใช้ Ola ให้เปลืองตังเพิ่ม รออยู่พักใหญ่เหมือนกัน ก็ได้ขึ้นรถ เข้าใจว่าดึกแล้วมั้งรถเลยเริ่มน้อย

นั่งมาผ่านเมือง ข้ามสะพาน Victoria มองเห็น Wheel of Brisbane กลางคืนก็สวยดี สว่างไสว และมาลงรถตรงสถานี Woolloongabba station ที่ใกล้บ้านสุดแล้ว จากนั้นก็มึนๆ กับสถานีมันว่าต้องเดินไปทางไหนต่อ มั่วสักพักจนเข้าใจทิศเลยเดินต่อถูก แล้วพบว่าเดินอีกราว 1 กิโลฯ ถึงจะถึงบ้าน... ทำไมมันไม่มีป้ายรถบัสใกล้กว่านี้ฟระ!

ระหว่างทางก็เจอคนอยู่เรื่อยๆ แสงไฟริมถนนดี สว่างตลอดทาง เดินมาพักนึงก็เจอ KFC ที่เป็นแลนด์มาร์กจุดสังเกตว่าใกล้ถึงบ้านแล้วก็อุ่นใจขึ้นหน่อย

เห็นดาวด้วย ที่นี่โซนคนอยู่อาศัย แสงไม่ฟุ้งเต็มท้องฟ้า มองดาวง่าย

ของจริงมืดกว่านี้มาก นี่สว่างเพราะมันมืดจนกล้องเปิดโหมด ISO สูง (ฮา)

และแล้วก็มาถึงซอยบ้าน โดยเข้าที่ด้านหลัง ต้องเดินต่อไปหน้าซอย และทางเดินก็เป็นเนินขึ้นไป และ... ทำไมซอยบ้านแม่งมืดชิบหายเลยวะ มืดจนพักนึงต้องหยิบมือถือมาเปิดไฟดูทาง คิดว่าถ้ามืดระดับนี้ อยู่ไทยคงไม่เดินไปแล้วอะ

เดินไปพักนึงก็พบว่ามีคนเดินสวนมาด้วย เดาว่าคงมาจากโบสถ์ข้างๆ บ้านล่ะมั้ง ไอ้เราก็เดินต่อไปอีกพักนึงก็ถึงบ้าน เดินเข้าบ้านไปก็เรียกว่าหมดแรงพิซซ่าที่กินมา เลยซัดขนมปังเพิ่มไปหน่อยให้อยู่ท้อง จากนั้นก็ไปอาบน้ำนอน

เป็นอันจบไปอีกวันหนึ่ง